วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2559

ขนมพื้นเมืองภูเก็ต

ขนมพื้นเมืองภูเก็ต

โอ๊ะเอ๋ว

โอ๊ะเอ๋ว หรือ โอ้เอ๋ว หรือ โอ้วเอ๋ว เป็นอาหารท้องถิ่นของจังหวัดภูเก็ต ได้จากวุ้นของเมล็ด
โอ๊ะเอ๋ว (คล้ายเมล็ดแมงลัก) ที่แช่น้ำแล้วใช้เมือกโอ๊ะเอ้วมาผสมกับเมือกของกล้วยน้ำว้า ใส่เจี่ยกอเพื่อให้โอ๊ะเอ๋ว เกาะตัวเป็นก้อน นำมาใส่น้ำเชื่อมและน้ำแข็งใส กินแก้ร้อนใน และลดการกระหายน้ำ      ชาวภูเก็ตจะรับประทานโอ๊ะเอ๋ว 3 แบบ คือ โอ๊ะเอ๋วใส่ถั่วแดงและเฉาก๊วย (ขาว ดำ แดง) โอ๊ะเอ๋วใส่ถั่วแดง (ขาว แดง) และ โอ๊ะเอ๋วใส่เฉาก๊วย (ขาว ดำ) บางคนนิยมใส่กล้วยและน้ำหวานด้วย แหล่งขายโอ๊ะเอ๋วในจังหวัดภูเก็ตที่สำคัญคือ โรงหนังสยามเก่า และซอยหล่อโรงหรือตลาดฉำฉา
 ที่มาของโอ๊ะเอ๋ว      โอ๊ะเอ๋ว มีที่มาจากทางปีนัง ประเทศมาเลเซีย คนขายโอ๊ะเอ๋วเจ้าแรกในภูเก็ตชื่อ แปะเอ้ง เป็นคนจีนขายอยู่ใน ตรอกสุ่นอุทิศ ปัจจุบันแปะเอ้งเสียชีวิตแล้ว แต่ก็มีคนสืบทอดต่อมาขายอยู่ที่เดิม คำว่า โอ๊ะเอ๋ว ไม่มีความหมายในภาษาจีน ของหวานชนิดนี้ ที่ปีนังเรียกว่า บุนทาวบี้แต่มาขายที่ภูเก็ตไม่มีคนเรียกชื่อนี้ วันหนึ่งมีคนลิ้นไก่สั้นพูดไม่ชัดมากินโอ๊ะเอ๋ว แปะเอ้งถามว่า



บ๊ะจ่าง

บ๊ะจ่าง คือข้าวเหนียวผัดด้วยซีอิ้ว ยัดไส้หมูเค็มหรือหมูพะโล้ ไข่ต้ม บางร้านก็เพิ่มออฟชั่นเสริม เช่นกุนเชียง ไข่เค็มเฉพาะไข่แดง กุ้งแห้ง เห็ดหอม ถั่วหรือเม็ดบัว แป๊ะก๊วย เพื่อเพิ่มมูลค่า จากนั้นก็ห่อด้วยใบจ่าง (ใบจากตากแห้ง) เป็นทรงพีระมิดสามเหลี่ยม ใช้เชือกมัดแล้วนึ่งจนสุก
นอกจากนั้น บ๊ะจ่างยังเป็นขนมที่ชาวจีน และคนไทยเชื้อสายจีน ใช้เซ่นไหว้ในเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง ซึ่งตรงกับวันที่ 5 เดือน 5 ตามปฏิทินทางจันทรคติ
ลักษณะเฉพาะของบ๊ะจ่าง ภูเก็ต ข้าวเหนียวต้องมีสีน้ำตาล ซึ่งเกิดจากการผัดกับซีอิ้ว รสชาติของข้าวเหนียวไม่หวานนำ ไม่เค็ม ทานแล้วกลมกล่อมพอดีๆ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความนิยม ทำให้ขนมบ๊ะจ่าง ถือว่าเป็นอาหารพื้นเมืองอีกอย่างหนึ่งของจังหวัดภูเก็ตเลยก็ว่าได้
ปัจจุบัน บ๊ะจ่างยังเป็นขนมที่คนภูเก็ตนิยมรับประทานกันทุกรุ่น ทุกยุค ทุกสมัย ใช้ทานเป็นของว่าง ยามเช้า ยามสาย คู่กับกับชา กาแฟ จึงไม่แปลกที่จะเห็นบ๊ะจ่างมีขายทั่วไปในตลาดสด ร้านกาแฟ ร้านขายขนมสดต่าง ๆ

ปาวหล้าง

ปาวหล้าง เป็นขนมที่ผู้เขียนคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยยังเด็ก เนื่องจากข้างบ้านทำขนมชนิดนี้ เพื่อฝากขายตามตลาด ร้านกาแฟ หากปิดเทอมเมื่อไหร่ ผู้เขียนมักจะตื่นแต่หัวรุ่ง เพื่อไปช่วยข้างบ้านห่อขนมบ้าง ช่วยปิ้งบ้าง สนุกเพลิน ๆ ดี เหมือนเล่นนางชี (เล่นหม้อข้าวหม้อแกง)
ปาวหล้าง คือข้าวเหนียวปิ้งไส้มะพร้าวผสมกับกุ้งแห้งป่นและพริกไทย ห่อด้วยใบตองโดยการม้วนแล้วใช้ไม้กลัด กลัดทั้งหัวและท้าย
ปาวหล้างจะอร่อย ข้าวเหนียวต้องปิ้งอย่างพอเหมาะ คือ ตัวข้าวเหนียวด้านนอกต้องเกรียมนิดๆ หากทานร้อน ๆ ต้องกรอบนอกนุ่มใน ตัวไส้มะพร้าวต้องทำจากมะพร้าวทึนทึก* ที่เพิ่งขูดสด ๆ ร้อน ๆ รสจะมัน หวาน หอม ไส้ที่ผัดเรียบร้อยแล้วต้องมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากกุ้งแห้งป่น และเผ็ดนิดหน่อยจากพริกไทย
ปาวหล้างยังคงหาซื้อได้ง่าย และนิยมรับประทานในตอนเช้า หากได้ทานปาวหล้างพร้อมจิบกาแฟอุ่น ๆ สักแก้ว ก็น่าจะเพิ่มพลังให้กับการทำงานได้ช่วงเช้าได้เป็นอย่างดี
* มะพร้าวทึนทึก คือ มะพร้าวกลางอ่อนกลางแก่นำมาขูดทำไส้ขนมต่างๆ เช่น ขนมสอดไส้ หรือ ขนมที่คลุกมะพร้าว เช่น ถั่วแปบขนมเหนียว เป็นต้น การเลือกซื้อมะพร้าวทึนทึก ต้องดูที่เปลือกที่มีสีน้ำตาลอ่อนมากๆ และถ้าดูกะลาก็จะมีสีน้ำตาลอ่อนไม่ดำ

อาโป้ง


อาโป๊ง หรือ อาโป้ง ขนมพื้นเมืองภูเก็ต ที่จัดว่าเป็นขนมของว่าง ไว้ทานเล่นระหว่างมื้อ ด้วยความอร่อยแบบเบา ๆ รสชาติหวานมัน หอมกะทิ ขอบนอกบางกรอบตรงกลางหนานุ่ม


สำหรับส่วนผสมของอาโป้งก็ไม่ได้มายมายแต่อย่างใด ได้แก่ แป้งข้าวเจ้า ไข่ไก่(เอาแต่ไข่แดง) น้ำตาลทราย น้ำกะทิ น้ำ และยีสต์ นำทั้งหมดผสมเข้าด้วยกัน แล้วนำไปราดลงบน กะทะหลุมเล็กๆ บนเตาถ่านที่ร้อนพอเหมาะ จากนั้นยกหูกะทะทั้งสองข้างละเลงกลิ้งน้ำแป้งเป็นวงกลมจนทั่ว ปิดผาทิ้งไว้สักพัก หมั่นเปิดดู พอสุกก็ลอกออกมาม้วน ทิ้งไว้ให้เย็น รอนำไปรับประทานได้เลย
เคล็ดลับความอร่อยของอาโป๊งนอกจากสูตรแล้ว ยังอยู่ที่ฝีมือการละเลงแป้งลงในกะทะร้อน ๆ ของคนทำด้วย คือต้องกลิ้งน้ำแป้งที่ผสมเรียบร้อย ในกะทะร้อนๆ ให้ทั่วพอดิบพอดี ถึงจะได้อาโป๊งที่เป็นแผ่นเรียบเสมอกัน ไม่เว้า ไม่แหว่ง
นอกจากนั้นเตาถ่านก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ขนมอร่อย ลองสังเกตุดูสิคะ ขนมหรืออาหารที่ทำด้วยเตาถ่าน จะอร่อยกว่าเตาแก๊ส
ร้านขายอาโป๊งในภูเก็ตดัง ๆ มีอยู่ 2 จ้าวด้วยกันค่ะ คือ อาโป๊งแม่สุณี และ อาโป๊งครูติ่ง ความแตกต่างของทั้งสองจ้าวอยู่ที่เนื้อขนม ถ้าชอบอาโป๊งบางกรอบต้องแม่สุณี ถ้าชอบแบบหนานุ่มต้องยกให้ครูติ่ง โดยส่วนตัวผู้เขียนชอบของครูติ่ง เพราะเนื้อตรงกลางเยอะกว่า แป้งก็นิ่มๆ ดี

เกี่ยมโก้ย 
       
   เป็นขนมถ้วยสีขาวโรยหน้าด้วยกุ้งแห้งทอดบด หอมเจียว และต้นหอมซอย ราดด้วยน้ำจิ้มสามรส
          
         เสน่ห์และเอกลักษณ์ของขนมเกี่ยมโก้ยจะอร่อยหรือไม่ อยู่ที่ความหนึบหนับของแป้งสีขาวนึ่ง และความหอมกรุ่นของหอมเจียวผสานกับความหอมของกุ้งแห้งทอด เสริฟพร้อมน้ำจิ้มสามรส เปรี้ยวหวานแซมความเผ็ดจากพริกแห้ง ตบท้ายด้วยชา หรือกาแฟร้อนๆ สักถ้วย แค่นี้ก็ช่วยเติมพลังให้กับช่วงสาย ๆ ได้จนถึงมื้อเที่ยงเลยทีเดียว

โกสุ้ย 
     
     หรือโก่ซุ้ย เป็นขนมถ้วย ทำจากน้ำตาลแดง ตัวขนมมีสีน้ำตาล รสหวาน ลักษณะเหนียวหนึบหนับ เสริฟคู่กับมะพร้าวขูดขาวเคล้าเกลือนิดหน่อยให้พอมีรสเค็ม
          วิธีรับประทานก็แค่นำโกสุ้ยคลุกกับมะพร้าว รสหวานจากตัวขนมและความเค็มจากมะพร้าว มันเป็นอะไรที่ช่างลงตัวดีแท้ ตัวแป้งหนึบหนับทำให้เคี้ยวได้เพลิน เผลอแป๊บเดียวก็หมดจานแบบไม่รู้ตัว
        
  ปัจจุบันยังคงหาทานได้ง่าย เนื่องจากทำไม่ยากและยังมีผู้นิยมรับประทานกันอยู่มาก นอกจากนี้บางร้านอาจจะมีโกสุ้ยใบเตย สีเขียว ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในเรื่องรสชาติและสีสัน แถมกลิ่นหอมๆ ของใบเตยที่ทานแล้วรู้สึกชื่นใจ
         ส่วนผสมหลักๆ ของโกสุ้ย ก็ไม่มีอะไรมาก ได้แก่ แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำด่าง น้ำตาลแดง เกลือ และ มะพร้าวขูดขาว
          เนื่องจากส่วนผสมง่าย ๆ ภูเก็ตคูซีนจึงค้นหาสูตรโกสุ้ยไว้ให้ลองทำทานกันดู เผื่อจะได้เมนูของว่างติดบ้าน ติดใจ กันอีกสักเมนูก็ได้

ขนมตูโบ้


ตูโบ้ หรือ ต้มบวดรวมมิตร อาหารหวานท้องถิ่นภูเก็ต ทำจากถั่วแดงเม็ดเล็ก (คนภูเก็ตเรียกว่า ถั่วย้อแย้) มันเทศ เผือก (คนภูเก็ตเรียกว่า หัวบอน)และแป้งมันสำปะหลัง (คนภูเก็ตเรียกว่า แป้งตั่วจูหุ้น) ต้มรวมกันในน้ำกะทิเติมน้ำตาลและเกลือพอให้มีรสหวานนำและเค็มปะแล่ม จะทานร้อนๆหรือเติมน้ำแข็งก็ได้